เรียกว่าเป็นข่าวที่ค่อนข้างสวนทางกับกระแสวิกฤติเศรษฐกิจซบเซาเสียจริงๆ เมื่อ คอนซูเมอร์ นิวส์ แอนด์ บิสซิเนส แชนแนล (Consumer News and Business Channel) หรือ ซีเอ็นบีซี (CNBC) เครือข่ายโทรทัศน์เคเบิลที่เสนอข่าวสารเกี่ยวกับตลาดหุ้นทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงของสหรัฐอเมริกา ได้รายงานตัวเลขการเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯ ซึ่งพบว่า
ในปี 2018 ชาวอเมริกันมีการใช้จ่ายไปกับเหล่าสัตว์เลี้ยง ตั้งแต่การซื้ออาหาร ของเล่น อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ไปจนถึงการดูแลรักษาสัตว์ มากถึง 72,560 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ราว 69,510 ล้านเหรียญเเละได้มีการคาดการณ์ว่า ในปีนี้ ชาวมะกันอาจมียอดค่าใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นเป็น 75,380 ล้านเหรียญ หรือราว 2.2 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงเกิดคำถามว่าทำไมในสภาพเศรษฐกิจที่โตช้า คนถึงยังยินดีใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงได้มากมายขนาดนี้
จากการวิเคราะห์ของ David Westenberg นักวิเคราะห์จาก Guggenheim Securities พบว่า กลุ่มคนที่มีสัตว์เลี้ยงในปัจจุบัน มีทัศนคติที่แตกต่างจากคนในสมัยก่อนอย่างมาก โดยเฉพาะมุมมองที่เห็นสัตว์เลี้ยงมีความสำคัญเสมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว (ในขณะที่คนสมัยก่อนมักเห็นความสำคัญของสัตว์เลี้ยงในแง่การใช้งานซะมากกว่า) ทำให้พวกเขาหันมาดูแลเอาใจใส่พวกมันมากขึ้น
ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้เกิดการใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงที่ใช้เงินเองไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง และมีอัตราการเเต่งงานน้อยลงมีลูกช้าขึ้น จึงหันมาให้เวลาและการใช้จ่ายกับสัตว์เลี้ยงแทน
อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2019/12/06/dogs-cats-pets-how-pets-became-a-70-billion-industry.html